เทศกาลภาพยนตร์สหภาพยุโรปปี 2551
รวบรวมสุดยอดหนังจากยุโรปมาไว้ที่ประเทศไทย
11 - 21 ธันวาคม โรงภาพยนตร์วิสต้ากาดสวนแก้ว
บัตรราคา 70 บาท
จองได้ที่ 053 894 415
เข้าสู่ปีที่ 17 แล้วสำหรับเทศกาลภาพยนตร์สหภาพยุโรป หรือ European Union Film Festival 2008 (EUFF) ที่รวมเอาสุดยอดภาพยนตร์จากยุโรปมาไว้ที่ประเทศไทย โดยในปีนี้จะมีภาพยนตร์คุณภาพถึง 17 เรื่องจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 17 ประเทศมาให้คนไทยได้ชมกัน
ภาพยนตร์ทุกเรื่องจะฉายเป็นภาษาประจำชาติเดิม พร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษใต้ภาพ ยกเว้นเรื่อง Control จากประเทศอังกฤษจะมีคำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาไทย
จุดเด่นที่พลาดไม่ได้สำหรับเทศกาลในครั้งนี้คือการเดินทางมาร่วมงาน ของผู้กำกับฝรั่งเศส เรจิส เกเซลบาช จะมาเล่าถึงประสพการณ์การสร้างหนังฝรั่งเศสเรื่อง ULZHAN ในวันเปิดงานที่กรุงเทพด้วย เรจิส ผู้มากประสพการณ์เป็นนักสร้างภาพยนตร์โทรทัศน์ และภาพยนตร์แนวอนิเมชั่นยอดนิยมหลายเรื่อง อย่างเช่นเรื่อง Belleville Rendez-vous.
เอกอัครราชทูต ดร. ฟรีดดริก ฮัมบวร์กเกอร์ หัวหน้าคณะผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปประจำประเทศไทย พูดถึงงานครั้งนี้ว่า “เป็น ระยะเวลาต่อเนื่องถึง 17 ปีแล้วที่เทศกาลภาพยนตร์สหภาพยุโรปนำภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของยุโรปมาให้ชาว ไทยที่รักการดูหนังได้เพลิดเพลิน และปีนี้ก็เช่นเดียวกัน มีภาพยนตร์ดีๆที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของภาพยนตร์ยุโรปและความสามารถ ของคนทำหนัง ผมขอเชิญชวนคนรักหนังทั้งหลายให้มาที่งานเทศกาล มั่นใจได้ว่าทุกคนจะไ้ด้รับความสุขจากการดูหนังและได้เรียนรู้วัฒนธรรมยุโรป”
ภาพยนตร์ที่นำมาฉายในปีนี้บอกเล่าเรื่องราวแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสถานที่กับสังคม อย่างเช่นเรื่อง Empties จากสาธารณรัฐเชก ที่พูดถึงอาจารย์สอนวรรณคดีที่ลาออกไปทำงานในซุปเปอร์มาร์เก็ตเพราะไม่ สามารถเข้าใจนักเรียนของตัวเอง เรื่อง Monkey’s in Winter จากบัลแกเรีย มีหนังสามเรื่องเกี่ยวกับทางเลือกของชีวิต เรื่อง Skin จากโปรตุเกส พูดถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่รวย สวย ฉลาดแต่ถูกเหยียดสีผิว และเรื่อง El Balancin de Ivan จากสเปนพูดถึงครอบครัวที่หลบหนีจากการปกครองโดยทหารที่โหดเหี้ยมในอาร์เจนตินาในช่วงทศวรรษ 1970
มีภาพยนตร์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัวอย่างเรื่อง Darlecarlians จากสวีเดนพูดถึงสามสาวพี่น้องที่กลับมาที่เมืองเล็กๆเพื่อฉลองวันเกิดครบรอบอายุ 70 ของพ่อ เรื่อง Northern Lights จากเนเธอร์แลนด์เล่าเกี่ยวกับผลที่ตามมาเมื่อความสัมพันธ์พ่ิอลูกถูกปลดปล่อย เรื่อง It Will Be Well จากโปแลนด์บอกเล่าเรื่องราวของนักวิ่งที่ต้องการช่วยเหลือแม่ที่ป่วยด้วยการเดินทางจาริกแสวงบุญ และเรื่อง The Ball จากอิตาลีเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กชายที่พยายามหาผู้ชายดีๆให้แม่
นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ที่พูดถึงการต่อสู้ที่ทำให้เกิดแบ่งแยกทางวัฒนธรรมอย่างเรื่อง The Edge of Heaven จากเยอรมนีซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลมากมาย เนื้อเรื่องพูดถึงลูกชายชาวตุรกีที่ให้อภัยพ่อของตัวเอง และแม่ที่ตัดสินใจให้อภัยและช่วยเหลือคนรักของลูกสาวที่มีเชื้อสายตุรกี ประเด็นระหว่างวัฒนธรรมยังถูกหยิบยกมาพูดถึงในหนังเรื่อง Arabian Nights จากลักเซมเบอร์ก ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้คุมรถไฟที่ทิ้งความสบายและสิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคย ออกเดินทางสู่อัลจีเรียเพื่อตามหาหญิงลึกลับคนหนึ่ง
นอกจากนี้ยังมีหนังเรื่อง Come, Sweet Death จากออสเตรียเกี่ยวกับตำรวจขี้เหล้าที่ล้มเหลวในชีวิตกับการสืบสวนคดีครั้งสุดท้าย เรื่อง King of the World จากเบลเยี่ยม พูดถึงชีวิตที่มีทั้งขึ้นและลงของแชมป์ชกมวย เรื่อง The Leaning Tower จากฟินแลนด์ พูดถึงการเดินทางของคู่รักที่เจ็บป่วยเพื่อไปดูหอเอนเมืองปิซ่า เรื่อง Ulzhan จากฝรั่งเศส พูดถึงการตามล่าหาสมบัติและความรักทั่วทวีปเอเชียกลาง เรื่อง One Day in August จากกรีซ พูดถึงคู่รักสามคู่กับปัญหาชีวิตแต่งงาน เรื่อง Control จากอังกฤษซึ่งได้รับรางวัลมากมาย เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวประวัติของ เอียน เคอร์ติส นักร้องวง Joy Division และเรื่อง Porcelain Doll จากฮังการี เป็นนิทานสามเรื่องเกี่ยวกับชาวนาที่มีอำนาจวิเศษลุกขึ้นมาต่อสู้กับกฎหมายในโลกรอบตัว
สำหรับการจองบัตรชมภาพยนตร์กรุณาติดต่อ โรงภาพยนตร์วิสต้ากาดสวนแก้ว เชียงใหม่ โทร 053 894 415
เทศกาลภาพยนตร์สหภาพยุโรปจัดโดยสำนักงานคณะผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปประจำประเทศไทย สถานทูตและหน่วยงานด้านวัฒนธรรมของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ร่วมกับโรงภาพยนตร์ เอสเอฟ เวิร์ล ซีเนม่า และโรงภาพยนตร์วิสต้า
No comments:
Post a Comment